"ห้องนอน" หรือ "บ้านของเรา" เปรียบเสมือน Safe Zone ที่เราสามารถที่จะแสดงความ
เป็นตัวตนได้เต็มที่ นั่นรวมถึงการปล่อยให้นิสัยเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นจนสุดท้าย
ห้องนอนก็กลายสภาพเป็นสภาพแวดล้อมที่ชวนให้เราเสียนิสัยไปซะแล้ว
ตื่นมาก็ต้องอยู่ในห้องนอน จะนอนก็ต้องเข้าห้องนอน เรียกได้ว่าห้องนอนคือสภาพแวดล้อมที่จะต้องเจอทุกวัน...
หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินแล้วว่า สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยน
เราจากอีกคนนึง ให้กลายเป็นอีกคนนึง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ห้องนอนของเราจะสามารถ
บ่งบอกถึงสุขภาพใจของเราออกมาได้
เคยเป็นมั้ย? บรรลุเป้าหมายมาตั้งหลายอย่างแต่กลับไม่มีความสุขเลย...ทั้ง ๆ เป็นสิ่งที่
อยากได้มาตลอด ไม่ว่าจะสำเร็จเป้าหมายไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเติมเต็มความรู้สึกเราได้
เหมือนตักน้ำรดผืนทราย... แทนที่จะมีความสุขกลับวิตกกังวลมากกว่าเดิมเพราะรู้สึก
ไม่เข้าใจความไม่พอของตัวเอง
นั่นเป็นเพราะเราลืมสังเกตตัวเองในทุกวัน ลืมถามว่าตัวเองจริง ๆ แล้วฉันต้องการอะไร
กันแน่ เราลืมสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "สมาธิ" ที่คอยทำให้เราคอยตระหนักถึงตัวเองเสมอ
ยังมีอีกหลายคนที่เข้าใจว่าการนั่ง "สมาธิ" เป็นเรื่องของศาสนาที่ชวนเสียเวลา...
ซึ่งก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะสังคมไทยมีหลายคนที่ทำให้มันถูกเข้าใจผิดไปในทางนั้น
และด้วยปัจจุบันที่โลกนั้นทุกอย่างมันเร็วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ข่าวสาร
การทำงาน มันทำให้กลายเป็นว่าการนั่งนิ่งๆ และสังเกตลมหายใจตัวเองเพียงแค่ 10 นาทีเป็นเรื่องเสียเวลา
ทำให้ใครหลาย ๆ คนมองข้ามการนั่งสมาธิไป
เหมือนเวลาเรา "โกรธ" เรา "เศร้า" เรา "มีความสุข" เราไม่เคยรู้ตัว กว่าจะมารู้ตัวอีกที
ก็จากไปแบบน่าเสียดาย หรือจากไปโดยทำร้ายคนรอบข้างแบบไม่รู้ตัว ...เพราะเราไม่รู้ตัว
ยังไงล่ะ! นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมนั่ง "สมาธิ" เราถึงต้องมานั่งสังเกตตัวเองหายใจ
ให้รู้ตัวตลอดเวลาว่าฉันทำอะไรอยู่ ฉันกำลังรู้สึกยังไงกันแน่ การที่เรายิ่งรู้จักว่าตัวเรา
เป็นยังไงคิดอะไรอยู่กันแน่ รู้สึกอะไรอยู่ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการหายใจ
มันจะช่วยฝึกให้ความฟุ้งซ่านของเราลดลง เหลือเพียงความรู้สึกที่แท้จริงเท่านั้น
ถ้าเรารู้จักตัวเองอย่างแท้จริง... เราก็จะสามารถจัดการตัวเองได้อย่างเหมาะสม
คนที่มีความสุขจึงเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแล้วลงมือทำ ไม่ใช่คนที่สามารถ
บรรลุเป้าหมายได้มากมายอะไรทั้งนั้น
จิตใจที่ฟุ้งซ่านมันก็เหมือนหมอก มันจะทำให้เราหลงทางและไขว้เขว บิดเบือน
สิ่งที่ใจเราต้องการจริง ๆ จนทำให้เราวิตกกังวล ดังนั้นเราต้องคอยทำให้มันสงบลง
อคติก็เหมือนกัน... ถ้าเราไม่ทิ้งมัน โอบกอดความเชื่อเพียงด้านเดียวที่ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก
ไม่พร้อมเปิดรับ เราก็ไม่อาจทำสมาธิได้ เพราะสมาธิเป็นการเข้าใจธรรมชาติ ซึ่งธรรมชาติ
นั้นมีความจริงของมัน เราไม่สามารถใช้อคตินั้นตัดสินได้
สำหรับคนที่คิดว่าไม่สามารถนั่ง "สมาธิ" ได้นาน ๆ การนั่ง "สมาธิ" เป็นกลุ่มอาจจะช่วย
ให้สามารถมี "สมาธิ" ได้มากขึ้น การที่มีคนตั้งใจนั่ง "สมาธิ" มานั่งข้าง ๆ อาจจะทำให้
เราอยากตั้งใจตาม หรือลองสร้างบรรยากาศสงบ ๆ ช่วยดูก็ได้ แต่ที่สำคัญการจะนั่งสมาธิ
ได้นานหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับการฝึกอยู่ดี เพราะช่วงแรก ๆ อาจจะไม่รู้สึกอะไรหรอก
บางทีอาจง่วงด้วยซ้ำไป แต่ถ้านั่งไปเรื่อย ๆ จนร่างกายปรับตัว เราก็จะมี "สมาธิ"
ไปกับตัวเอง เช่น ง่วงอยู่นะ กำลังจะหลับแล้วนะ ตอนนี้สงบนะ
จิตใจที่สตรอง ต้องมี "วินัย" รู้ว่าฉันต้องทำอะไร ตอนไหน อย่างไร ซึ่งเราสามารถ
ฝึกฝนจิตใจให้มีวินัยได้แม้แต่กับเรื่องง่าย ๆ เช่น จัดการ "ห้องนอน"
ถ้าตื่นมาในห้องนอนที่ขยะเป็นกองภูเขา ของกองจนเหลือทางเดินเหลือคืบเดียว
คงทำให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อย... ถึงแม้การจัดห้องนอนจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ มองว่า...
จะจัดการยังไงก็ได้ แต่การคอยดูแลมันให้ดี และเรียบร้อย คอยทำความสะอาด
อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ผัดวันประกันพรุ่ง
อย่าลืมที่จะฝึกฝนและรู้ทันตัวเองเสมอ เพราะไม่มีใครช่วยให้จิตใจเราเข้มแข็งได้ดี
เท่าตัวเราเอง
ทำไมเราไม่เกลาตัวเองก่อนเกลาคนอื่น?