เวลาเครียดเพียงแค่คุณยิ้มกว้างออกมาความรู้สึกแย่ ๆ จะค่อย ๆ ลดลง เพราะการยิ้มจะสามารถเข้าไปเปลี่ยนอารมณ์ที่สมองสั่งการมาได้

การยิ้มหรือหัวเราะจะทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมาอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันก็จะมีผลให้ร่างกายลดการหลั่งสารแห่งความเครียดออกมา แถมเมื่อขยับใบหน้าเป็นรอยยิ้ม มีผลทำให้เลือดแดงไปเลี้ยงที่สมอง อุณหภูมิในสมองลดลง เกิดความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ดังนั้นไม่ว่าจะเจอสถานการณ์สุดแย่และกดดันขนาดไหน แค่ยิ้มออกมาความเครียดก็จะเบาบางลง และแก้ปัญหาได้อย่างมีสติมากขึ้น

คนจะอยากและกล้าเข้าหาคนที่ยิ้มแย้มมากกว่าคนที่ชอบทำหน้าบึ้ง

ระหว่างคนที่ทำ ’หน้าบึ้ง’ กับ ‘หน้ายิ้ม’ เราจะกล้าเข้าหาใครมากกว่ากัน แน่นอนว่าต้องเป็นคน ‘หน้ายิ้ม’ คนอื่นที่มองเรามาก็เหมือนกัน คงไม่มีใครอยากเข้าหาเราถ้าหน้าเราดูไม่เป็นมิตร

และมีนักวิจัยพบว่าสมองของมนุษย์เราจะตอบสนอง และจดจำใบหน้าของคนที่ยิ้มเบิกบานเก่ง มากกว่าการทำหน้าเฉย ๆ สามารถสร้างแรงดึงดูดให้คนจดจำ แถมยังน่ามอง

การยิ้มใช้กล้ามเนื้อ 17 มัด แต่หน้าขมวดคิ้วต้องใช้กล้ามเนื้อมากถึง 43 มัด ดังนั้นการยิ้มบ่อย ๆ แทนการขมวดคิ้วจึงทำให้หน้าเด็กกว่าเห็น ๆ

เมื่อเราตกอยู่ในภาวะเครียด ร่างกายจะผลิตอนุมูลอิสระ ในปริมาณมากขึ้นมา กระตุ้นทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ เร่งให้มีริ้วรอย เมื่อยิ้มจะลดความเครียดตรงนี้ลง ทำให้ชะลอการเกิดริ้วรอย

และการยิ้มเป็นการบริหารใบหน้าไปในตัว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เวลาที่เรายิ้มกล้ามเนื้อบนใบหน้าจะถูกใช้หลายส่วน ทั้งปาก แก้ม ขากรรไกร คอ และตา คล้ายกับเป็นการบริหารใบหน้า ซึ่งช่วยให้ใบหน้านั้นดูอ่อนกว่าวัย

เมื่อยิ้มก็เหมือนได้ถอยออกมาจากปัญหาอย่างน้อยหนึ่งก้าว แล้วตัวเราจะมองเห็นว่า ‘ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นนี่นา’ แล้วแทนที่ด้วยความสุขหรือการมองเห็นสิ่งดี ๆ ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เวลาเรายิ้มก็เหมือนได้ฝึกสมองให้คุ้นเคยกับความสุขไปในตัว จาก 3 ข้อด้านบนจะทราบว่าการยิ้มช่วยเปลี่ยนให้ความเครียดเป็นความสุข เพราะเมื่อเครียดสมองจะสั่งการให้คิดอะไรในแง่ลบ แต่เพียงแค่ยิ้มออกมา เราจะมีสติขึ้น และมองปัญหาในแง่บวก จนสามารถหาช่องทางแก้ไขปัญหานี้ไปในทางที่ดีได้

ทำให้ดูเปิดเผย มั่นใจในตัวเอง คนจึงกล้าเข้าไปหามากกว่า จึงทำให้ได้รับโอกาสมากกว่าคนที่ไม่ค่อยยิ้มที่ดูแล้วเข้าหายาก และในการคุยงานหรือธุรกิจ ถ้าหน้าบูดอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่

นอกจากพนักงานเสริฟที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีสิทธิ์ได้ Tip มากกว่าคนที่ไม่ยิ้มแย้มแล้วนั้ ในการดีลงานหรือเจรจาทางธุรกิจ ถ้าหน้าตาเครียด บทสนทนาเครียด อาจทำให้ไม่ลื่นไหลและผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่เราต้องการ

ถ้าหากเราเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ส่งให้กับบุคคล ที่เรากำลังคุยด้วยบทสนทนาอาจเปลี่ยนไปสู่ความสำเร็จได้ และการเป็นคนที่ยิ้มอยู่เสมอทำให้น่าเข้าหา ดูเป็นมิตร มากกว่าคนที่ไม่ค่อยยิ้ม ทำให้มีผู้คนกล้าเข้าไปหา พร้อมหยิบยื่นโอกาสให้

ธรรมชาติของสมองเมื่อเราเห็นรอยยิ้มจากใครเราก็จะยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ ดังนั้นเมื่อเรายิ้มให้คนอื่น เขาก็จะยิ้มตามเช่นกัน

เคยเป็นไหม? และเมื่อเราเห็นรอยยิ้ม เราก็จะยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ หรือตอนเรายิ้มให้คนอื่น เขาก็จะยิ้มตาม

นักประสาทวิทยา มาร์โค อิอาโกบอนิ ได้ให้ข้อมูลตรงนี้ว่า ร่างกายเราจะมีตัวสะท้อนเซลล์ประสาท คือ เยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า และกลีบข้างของสมอง คอยทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลที่ได้เห็น และกระตุ้นให้ร่างกายพยายามเลียนแบบสิ่งที่เห็นและเข้าใจ ดังนั้นทุกครั้งที่เรายิ้มให้ใคร เขาก็จะยิ้มตอบเป็นอัตโนมัติ ถือเป็นการสร้างพลังบวกให้กับคนรอบ ๆ ตัว ให้มีความสุขมากขึ้น

และนี่คือ 6 ข้อที่ทำให้คุณต้องพกการยิ้มให้เป็นนิสัยติดตัว ทำตามแล้วจะทำให้ชีวิตคุณมีความสุข พร้อมกับความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตามมา นอกเหนือจากนั้น การที่จะทำให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจ และเพิ่มบุคลิกภาพที่น่าเข้าหา คือการมีฟันที่เรียงตัวสวย

จัดฟันใสกับ ‘เซนยุม’ 1 ใน 10 บริษัท Start up ที่มาเเรงที่สุดในปี 2020 ใน LinkedIn เป็น 1 เเบรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีจัดฟันผ่านแอพพลิเคชั่น

• ระยะเวลาการจัดเพียง 3-9 เดือน โดยเฉลี่ย 6 เดือน เทียบกับจัดฟันปกติ
• พบคุณหมอที่คลินิกแค่ 2-3 ครั้งตลอดการรักษา หลังจากนั้น
• มีคลินิกพาร์ทเนอร์ ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด
• อุปกรณ์ไม่จำกัดจำนวนเทรย์ เพียง 49,000 บาท ทุกเคส (ไม่รวม VAT) จ่ายก้อนเดียวจบไม่มีเพิ่ม

จัดฟันใสกับ Zenyum ยิ้มได้มั่นใจโดยไปคลินิกแค่ 3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นดูแลรักษาผ่าน Zenyum Application Save ทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า